แบตเตอรี่โซลิดสเตต เพิ่มประสิทธิภาพ รถ EV 2.5 เท่า

แบตเตอรี่โซลิดสเตต

วิกฤติภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบรุนแรงมากขึ้นทุกๆ ปี ทำให้ทุก อุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อมลพิษหลัก ต้องหาวิธีลดผลกระทบจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เป็นทางออกสำคัญที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

โดยตลาดรถ EV มีแนวโน้มเติบโตสูง คาดว่าภายในปี 2571 จะมีมูลค่าประมาณ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และอาจมีสัดส่วน 30% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั่วโลกภายในปี 2573

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นเทคโนโลยีหลักของรถ EV เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ชาร์จเร็ว และเก็บพลังงานได้มาก แต่ยังมีข้อจำกัดด้านราคาและการเสื่อมสภาพตามรอบการชาร์จ จึงมีการพัฒนาเพื่อลดต้นทุน เช่น การใช้ ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) แทนวัสดุราคาสูงอย่างนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ออกไซด์ (NMC) และการวิจัยใช้ซิลิคอนแทนแกรไฟต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา โซลิดสเตต (Solid-State Battery) ที่ใช้อิเล็กโทรไลต์ของแข็งแทนของเหลว ซึ่งชาร์จเร็ว เก็บพลังงานได้มากและปลอดภัยกว่า แบตโซลิดสเตตยังช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ได้ 24-39% แต่ยังต้องพัฒนาด้านอายุการใช้งานและความปลอดภัยเพิ่มเติม

การรีไซเคิลแบตเตอรี่ ก็เป็นอีกแนวทางสำคัญ โดยใช้กระบวนการโลหวิทยาสารละลาย (Hydrometallurgy) เพื่อแยกสกัดวัสดุเช่น นิกเกิล โคบอลต์ และลิเธียม จากแบตเตอรี่เก่า ซึ่งวัสดุรีไซเคิลเหล่านี้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าวัสดุใหม่ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สรุปได้ว่า เทคโนโลยีแบตเตอรี่เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถ EV และการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีการพัฒนาหลายรูปแบบ ทั้งการลดต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพ และการรีไซเคิล เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถ EV ในอนาคต

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : bangkokbankinnohub.com